‘Matcha No Hi วันชาเขียวญี่ปุ่น’ ส่อง 5 ประโยชน์ของเครื่องดื่มแก้วโปรด

‘Matcha No Hi วันชาเขียวญี่ปุ่น’ ส่อง 5 ประโยชน์ของเครื่องดื่มแก้วโปรด

วันที่ 6 กุมภาพันธ์ของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็น 'วันชาเขียวญี่ปุ่น' (Matcha No Hi) เพื่อรณรงค์ให้เห็นถึงความสำคัญของชาเขียวที่อบอวลไปด้วยเรื่องราวทางวัฒนธรรมและสรรพคุณอันหลากหลายจากใบชาที่เราคุ้นเคย ชวนมาดื่มด่ำกับประโยชน์เข้ม ๆ ของชาเขียวและมัทฉะ เครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมมาหลายศตวรรษว่ามีดีอย่างไร ทำไมชาวญี่ปุ่นจึงให้ความสำคัญ


มัทฉะกับชาเขียว ต่างกันอย่างไร 

 

มัทฉะ (Matcha) คือชาเขียวชนิดหนึ่งที่ปลูกแบบคลุมแสง (shading) มากกว่า 20 วัน จากนั้นจึงเก็บเกี่ยว นึ่ง ตากแห้ง แล้วบดเป็นผงทั้งใบ ก่อนนำมาชงดื่ม มีรสฝาดขม สีเขียวชัด กลมกล่อมเข้มข้นกว่าชาเขียว ให้กลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ นิยมชงดื่มร่วมกับนมสด ส่วนชาเขียว (Green Tea) คือชาใส ๆ ที่ได้จากการนำใบชาเขียวมาต้มชง ซึ่งชาเขียวที่เราคุ้นเคยมักมาในรูปแบบของใบชาบรรจุซองสำหรับแช่ในน้ำร้อนพร้อมดื่ม


ชาเขียวและมัทฉะ ประโยชน์ที่มากกว่าความอร่อย


1. ช่วยบำรุงหัวใจและหลอดเลือด

 

งานวิจัยระบุว่า สารอพิกัลโลคาเทชิน-3-กัลเลต (Epigallocatechin-3-gallate) หรือ EGCG ที่พบมากในมัทฉะ มีส่วนช่วยป้องกันหลอดเลือดแดงแข็ง ภาวะหัวใจโต หัวใจวาย และกล้ามเนื้อหัวใจตาย จึงมีแนวโน้มว่ามัทฉะจะช่วยให้การทำงานของระบบหัวใจและหลอดเลือดเป็นปกติ นอกจากนี้ ยังมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงเกิดโรคเบาหวานด้วย 

 

2. เป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ

 

โดยทั่วไปแล้วชาเขียวมีสารที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระสูง ไม่ว่าจะเป็นคาเทชิน (catechins) หรือฟลาโวนอยด์ (flavonoids) ที่ช่วยลดการอักเสบของเซลล์ในร่างกาย ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย และช่วยป้องกันฟันผุ

 

3. มีแนวโน้มต้านมะเร็ง

 

จากการศึกษาประชากรกว่า 1,400 คน ที่ดื่มชาเขียวเป็นประจำ พบว่าคนกลุ่มนี้มีความเสี่ยงเกิดมะเร็งกระเพาะอาหารลดลง นอกจากนี้ คาเทชินและกรดแกลลิค (gallic acid) ในมัทฉะ ยังถูกนำมาใช้ร่วมกับการรักษามะเร็งโดยเคมีบำบัดอีกด้วย

 

4. มีส่วนช่วยกระตุ้นการลดน้ำหนัก

 

สถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH) หน่วยงานวิจัยในสหรัฐอเมริกา เผยว่าชาเขียวมีส่วนช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน ลดการสร้างและดูดซึมไขมันในร่างกาย ซึ่งอาจส่งผลต่อน้ำหนักตัว มีการทดลองประสิทธิภาพการช่วยลดน้ำหนักของชาเขียว โดยให้ผู้ร่วมทดลองที่มีน้ำหนักเกิน 76 ราย ดื่มชาเขียวทุกวันเป็นเวลา 4 เดือน พบว่าผู้ร่วมทดลองสามารถลดน้ำหนักได้จริง 

 

5. ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง

 

ชาเขียวมีส่วนช่วยสมานแผล ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร และส่งเสริมการสร้างผิวหนังใหม่ คอลลีน ไทเลอร์ (Colleen Tyler) แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านธรรมชาติบำบัดและนักดื่มชาตัวยงเผยว่า หากนำมัทฉะมามาส์กหน้าจะช่วยลดรอยแดงและช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสุขภาพดีเพราะคุณประโยชน์ของสารคาเฟอีนและ EGCG ในมัทฉะ

 

สรุป 

 

อย่างไรก็ตาม ชาเขียวและมัทฉะไม่ใช่ยาหรือพืชวิเศษที่จะสามารถรักษาทุกโรคจนหายเป็นปลิดทิ้ง แม้ชาเขียวจะเต็มไปด้วยประโยชน์รอบด้านและทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าเมื่อดื่ม แต่เราก็ไม่ควรมองข้ามผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากการได้รับคาเฟอีนมากเกินไป เช่น นอนไม่หลับ หัวใจเต้นเร็ว คลื่นไส้ ไม่สบายท้อง ปวดศีรษะ กระวนกระวาย วิตกกังวล ท้องเสีย หรือมีภาวะความทุกข์ใจ (dysphoria) เป็นต้น นอกจากนี้ ชาบางชนิดยังมีสารตะกั่วและยาฆ่าแมลงในปริมาณมาก เราควรเลือกซื้อชาเขียวและมัทฉะจากผู้ผลิตที่มีคุณภาพเชื่อถือได้

 

ให้คุณดูแลสุขภาพได้ง่ายขึ้น ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตัวเอง ได้ที่ Smart Doctor โปรแกรมตรวจอาการเบื้องต้นอัจฉริยะ จาก Doctor at Home

ข้อมูลล่าสุด : 6 ก.พ. 2567