“มือ-เท้า-ปาก” โรคระบาดในเด็กที่ต้องระวัง

“มือ-เท้า-ปาก” โรคระบาดในเด็กที่ต้องระวัง

 

เปิดเทอมแล้ว นอกจากการดูแลเรื่องอื่น ๆ สิ่งที่ต้องระวังก็คือโรคระบาดที่มักพบในเด็ก อย่างเช่น มือ-เท้า-ปาก (Hand-foot-and-mouth disease) ไข้ออกผื่นชนิดหนึ่งที่พบได้บ่อยในเด็กเล็ก เกิดจากการติดเชื้อไวรัสกลุ่มเอนเทอโร (enterovirus) ซึ่งติดต่อได้ง่าย มีอาการไม่รุนแรงและหายได้เองเป็นส่วนใหญ่ มักระบาดตามโรงเรียนอนุบาลและในช่วงฤดูฝน กลายเป็นหนึ่งในความกังวลของพ่อแม่ผู้ปกครอง เราเลยชวนมาดูวิธีรับมือกับโรคมือ-เท้า-ปากในเด็ก เพื่อให้ดูแลลูกหลานได้ทันท่วงที

 

มือ-เท้า-ปาก ติดต่อทางไหน

 

โดยส่วนมากแล้ว เชื้อไวรัสโรคมือ-เท้า-ปาก มักแพร่ผ่านทางการหายใจและระบบทางเดินอาหาร สามารถติดต่อได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยมีปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ดังนี้

 

  • อาหารและน้ำดื่ม
  • เด็กดูดเลียนิ้วมือ 
  • ใช้สิ่งของปนเปื้อนเชื้อ ที่มากับอุจจาระ น้ำเหลืองจากตุ่มน้ำที่ผิวหนัง หรือละอองน้ำมูก น้ำลาย
  • สูดเอาฝอยละอองน้ำมูก น้ำลาย ที่ผู้ป่วยไอจามรด

 

อาการของโรคมือ-เท้า-ปาก

 

  • มีไข้ อ่อนเพลีย
  • เบื่ออาหาร
  • มีน้ำมูก
  • เจ็บปาก เจ็บคอ
  • มีจุดนูนแดงหรือมีน้ำใสอยู่ข้างใต้ ขึ้นตามเยื่อบุปาก ลิ้น และเหงือก เมื่อตุ่มน้ำในช่องปากจะแตกกลายเป็นแผลตื้น ๆ ทำให้รู้สึกเจ็บ
  • มีตุ่มผื่นขึ้นเป็นจุดแดงที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ซอกนิ้วมือ แก้มก้น แล้วกลายเป็นตุ่มน้ำ
  • หากมีอาการรุนแรง อาจปวดศีรษะ อาเจียน ซึม ไม่ค่อยรู้ตัว ชัก แขนขาอ่อนแรง หรือหายใจหอบ

 

โดยที่ผู้ป่วยอาจมีไข้ประมาณ 3-4 วัน หลังจากนั้นไข้จะเริ่มลดลง ส่วนแผลในปากมักหายได้เองภายใน 7 วัน ตุ่มที่มือและเท้า จะใช้เวลาประมาณ 10 วัน จึงหายได้เอง ส่วนใหญ่ไม่เป็นแผลเป็น อาจพบเยื่อหุ้มสมองอักเสบ มักไม่รุนแรง และหายได้เองใน 10 วัน นอกจากนี้ ในบางรายที่เป็นรุนแรงอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น สมองอักเสบ ปอดบวมน้ำ เลือดออกในปอด และกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ซึ่งพบเป็นส่วนน้อย

 

ดูแลอย่างไรเมื่อเป็นโรคมือ-เท้า-ปาก

 

  • กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
  • ดื่มน้ำมาก ๆ จนปัสสาวะใส เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
  • กินอาหารเหลว เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก แกงจืด นม น้ำเต้าหู้ ของหวาน
  • อมน้ำแข็งก้อนเล็ก ๆ หรือกินไอศกรีม ดื่มน้ำหรือนมเย็น 
  • บ้วนปากด้วยน้ำอุ่นผสมเกลือครึ่งช้อนชาต่อน้ำหนึ่งแก้ว เพื่อลดอาการเจ็บแผล
  • ในเด็กทารก ให้ใช้ช้อนป้อนหรือใช้กระบอกฉีดยาค่อย ๆ หยอดเข้าปากแทนการดูดจากขวด


หากเด็ก ๆ กินอาหารและดื่มน้ำได้น้อย หรือปัสสาวะออกน้อย กินยาไม่ได้ อาการไม่ทุเลาใน 2-3 วัน เซื่องซึมผิดปกติ ไม่ค่อยรู้สึกตัว เพ้อคลั่ง มีอาการปวดศีรษะมาก อาเจียน หายใจหอบ เจ็บหน้าอกมาก ชัก ควรรีบกลับไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด

 

วิธีป้องกันโรคมือ-เท้า-ปาก

 

  • ไม่คลุกคลีกับผู้ป่วย 
  • ในช่วงเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ หรือจนกว่าตุ่มแผลจะหายดี ผู้ป่วยควรแยกตัวจากผู้อื่น
  • ใช้ผ้าปิดปากและจมูก เมื่อไอหรือจาม
  • ล้างมือด้วยน้ำกับสบู่หลังถ่ายอุจจาระ เปลี่ยนผ้าอ้อม 
  • เลี่ยงใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น เช่น แก้วน้ำ หลอดดูด และขวดนม โดยเฉพาะในช่วงการระบาด
  • ฝึกให้เด็กมีสุขนิสัยที่ดี ไม่นำนิ้วมือหรือของเล่นเข้าปาก

 

สรุป

 

แม้ว่าโรคมือ-เท้า-ปาก จะหายได้เองภายใน 7-10 วัน หรือไม่เกิน 2 สัปดาห์ แต่ก็สร้างความเจ็บปวดไม่น้อย พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถสังเกตอาการเบื้องต้นได้คือ มีไข้ร่วมกับมีแผลในปาก เด็ก ๆ มักรู้สึกเจ็บที่ปากและคอ รวมถึงมีผื่นตุ่มขึ้นบริเวณมือและเท้า หากมีอาการดังกล่าวควรรีบพบแพทย์

 

อ่านข้อมูล โรคมือ-เท้า-ปาก เพิ่มเติม

 

คุณสามารถเช็กอาการ ไข้ร่วมกับมีผื่นหรือตุ่มขึ้นกลืนลำบาก ซึ่งเป็นสัญญาณของโรคมือ-เท้า-ปาก ได้ที่ Smart Doctor โปรแกรมตรวจอาการเบื้องต้นอัจฉริยะ จาก Doctor at Home

ข้อมูลล่าสุด : 30 พ.ค. 2566