สัญญาณบ่งชี้ “โรคสมาธิสั้น” ที่ผู้ปกครองควรรู้!

สัญญาณบ่งชี้ “โรคสมาธิสั้น” ที่ผู้ปกครองควรรู้!

 

เด็กซนแค่ไหนถึงเรียกว่าเป็นโรคสมาธิสั้น? ความสงสัยในใจของพ่อแม่ ผู้ปกครองหลายคนที่บ่นว่าลูกดื้อเหลือเกิน บทความนี้ ชวนมาสังเกตสัญญาณบ่งชี้ของ โรคสมาธิสั้น หรือ ภาวะสมาธิสั้น (Attention-Deficit/Hyperactivity Disorder “ADHD”) ที่พ่อแม่ ผู้ปกครองควรรู้ เพื่อจะได้รับมือและพร้อมช่วยเหลือลูกหลานเมื่อป่วย
 

โรคสมาธิสั้น ที่เกิดขึ้นกับเด็กวัยเรียน พบได้ในไทยเฉลี่ย 3-5 เปอร์เซ็นต์ พฤติกรรมซึ่งเห็นได้ชัดเจนคือ อยู่นิ่งไม่ได้ ซุกซน ความสามารถในการควบคุมตัวเองต่ำ ไม่มีสมาธิ มักพบอาการเหล่านี้ในเด็กอายุต่ำกว่า 7 ปี

 

โรคสมาธิสั้น ประเภทต่าง ๆ

 

โรคสมาธิสั้น ในเด็กบางคนจะเริ่มสังเกตเห็นได้ตั้งแต่อายุ 3 ปี อาจมีความรุนแรงไม่มาก ไปจนถึงระดับรุนแรงที่สุด และอาจมีอาการต่อเนื่องจนกระทั่งเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ มักเกิดกับเพศชายมากกว่าเพศหญิง และแสดงอาการต่างกัน เช่น เด็กผู้ชายอาจแสดงพฤติกรรมอยู่ไม่นิ่งมากกว่า ในขณะที่เด็กผู้หญิงมักขาดสมาธิแบบเงียบ ๆ

 

ผู้เชี่ยวชาญแบ่งโรคสมาธิสั้นออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่

 

1.มีอาการขาดสมาธิเป็นหลัก (Predominantly inattentive) อาการหลัก ๆ ที่พบคือเด็กจะไม่สามารถใส่ใจหรือโฟกัสสิ่งต่าง ๆ ได้ตามปกติ
2.มีอาการไม่อยู่นิ่งและหุนหันพลันแล่น (Predominantly hyperactive/impulsive) เด็กกลุ่มนี้จะวู่วาม ใจร้อน ไม่สามารถนั่งนิ่งได้ 
3.มีอาการทั้งสองประเภทรวมกัน (Combined) อาการของเด็กสมาธิสั้นกลุ่มนี้จะปรากฏทั้ง 2 รูปแบบคือ ไม่มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งต่าง ๆ และอยู่นิ่งไม่ได้ด้วย

 

สัญญาณบ่งชี้ โรคสมาธิสั้น ในเด็ก

 

พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถสังเกตอาการว่าเด็กเป็นโรคสมาธิสั้นหรือไม่ จากพฤติกรรมของเขา โดยเราจะแบ่งอาการเบื้องต้นออกเป็น 2 กลุ่ม

 

1.ขาดสมาธิเป็นหลัก 

  • ไม่ใส่ใจรายละเอียด สะเพร่าในการทำการบ้าน
  • มีปัญหาเรื่องการจดจ่อ ไม่มีสมาธิ
  • ดูเหมือนไม่ฟังเวลามีคนพูดด้วย
  • ทำการบ้านไม่เสร็จ หรือไม่สามารถทำงานที่ครูหรือผู้ปกครองให้ทำจนสำเร็จได้
  • จัดระเบียบการทำงานหรือกิจกรรมต่าง ๆ ได้ยาก
  • เลี่ยงทำสิ่งที่ต้องใช้สมาธิหรือความพยายามสูง
  • เมื่อถูกรบกวนจะวอกแวกง่าย
  • มักทำของใช้ส่วนตัวหายบ่อย ๆ
  • ขี้ลืม เช่น ลืมทำการบ้าน หรือลืมทำงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ได้รับมอบหมายให้ทำ

 

2.ไม่อยู่นิ่งและหุนหันพลันแล่น

  • อยู่เฉย ๆ ไม่ได้ ขยับตัวแทบจะตลอดเวลา
  • ไม่ค่อยชอบนั่งอยู่กับที่
  • ชอบกระโดดโลดเต้น วิ่ง ปีนป่าย ในเวลาที่ไม่เหมาะสม
  • เล่นหรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้ความเงียบไม่ได้
  • พูดมาก ขัดจังหวะการสนทนา
  • ไม่มีความอดทนรอ
  • ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา

 

สรุป

 

เมื่อเด็กเป็นโรคสมาธิสั้น ส่วนใหญ่มักขาดความสามารถในการทำกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งเป็นเวลานาน แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองไม่ควรด่วนสรุปว่าเด็กที่มีพลังล้นเหลือตามธรรมชาติ หรือชอบวิ่งเล่น เป็นเด็กสมาธิสั้นเสมอไป หากสงสัยว่าลูกหลานมีความผิดปกติ ควรพาไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรับคำแนะนำอย่างถูกต้อง

 

หากคุณสนใจตรวจสุขภาพเบื้องต้นด้วยตัวเอง สามารถเข้าไปเช็กอาการได้ที่ Smart Doctor โปรแกรมตรวจอาการเบื้องต้นอัจฉริยะ จาก Doctor at Home

ข้อมูลล่าสุด : 31 ต.ค. 2566