รวม 6 ข้อดี พร้อมทริคเตรียมตัวก่อนบริจาคโลหิต

รวม 6 ข้อดี พร้อมทริคเตรียมตัวก่อนบริจาคโลหิต

 

เลือดเป็นสิ่งที่ซื้อหาไม่ได้ และไม่มีสารประกอบใดสามารถทดแทนได้อย่างสมบูรณ์ จึงไม่ต้องแปลกใจ หากเราจะเห็นการรณรงค์บริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่อง แต่นอกจากคนรับแล้ว คนให้จะได้อะไรบ้าง ทำไมต้องบริจาคเลือด เรารวบรวมข้อดีของการบริจาคเลือดมาไว้ในบทความนี้แล้ว พร้อมทริคเล็ก ๆ ก่อนไปบริจาคโลหิต ที่จะทำให้สุขภาพกายและใจดีขึ้น

 

1. รู้ข้อมูลสุขภาพของตัวเอง

การบริจาคเลือดจะทำให้เรารู้ข้อมูลสุขภาพของตัวเอง เพราะก่อนบริจาคต้องมีการซักประวัติสุขภาพ กรอกแบบสอบถาม ชั่งน้ำหนัก และวัดความดันโลหิต รวมถึงได้รับบริการตรวจสารเคมี สำหรับผู้ที่บริจาคเลือด 1 ครั้งขึ้นไปกับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติและสาขาทั่วประเทศ เช่น ตรวจหาน้ำตาล ไขมัน ภาวะการทำงานของตับ เป็นต้น

 

2. รู้หมู่โลหิตระบบ ABO และระบบ Rh

นอกจากตรวจสุขภาพแล้ว เราจะได้รับการตรวจหมู่เลือดและความเข้มข้นของเลือดด้วย ทำให้เรารู้ว่าตัวเองมีหมู่เลือดอะไรในระบบ ABO ซึ่งแบ่งเป็น 4 หมู่ คือ เอ (A), บี (B), โอ (O) และเอบี (AB) รวมถึงระบบ Rh แบ่งเป็น อาร์เอชบวก (Rh positive) และ อาร์เอชลบ (Rh negative) หากต้องได้รับเลือด จะช่วยเพิ่มความรวดเร็วและปลอดภัยในการรักษา

 

3. ผิวพรรณเปล่งปลั่ง

เมื่อร่างกายผลิตเลือดขึ้นมาทดแทนหลังจากบริจาคโลหิต ระบบไหลเวียนของเลือดจะดีขึ้น จึงมีส่วนช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ดูสดใส ไม่หมองคล้ำ มีน้ำมีนวล และมีส่วนช่วยให้รูปร่างดีขึ้นได้ด้วย

 

4. สุขภาพดี

ร่างกายได้สร้างเม็ดเลือดใหม่ออกมาทดแทนซึ่งจะยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเม็ดเลือดใหม่นี้มีทั้ง เม็ดเลือดแดงที่ช่วยส่งออกซิจนไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เม็ดเลือดขาวขจัดสิ่งแปลกปลอม และเกล็ดเลือดซ่อมแซมแผลในร่างกาย นอกจากนี้ การบริจาคเลือดช่วยกระตุ้นให้ไขกระดูกผลิตเม็ดโลหิตใหม่ ช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น ทำให้เรามีสุขภาพที่ดี

 

5. ลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจและมะเร็ง

เมื่อเราบริจาคเลือดจะช่วยลดปริมาณธาตุเหล็กส่วนที่เกินได้ หากร่างกายมีธาตุเหล็กสะสมมากเกินไปอาจเสี่ยงป่วยด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจ หรือโรคหัวใจวาย นอกจากนี้การบริจาคเลือดยังช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งบางชนิด อย่างมะเร็งตับ มะเร็งปอด หรือมะเร็งลำไส้ใหญ่

 

6. ได้รับความช่วยเหลือในการรักษาพยาบาล

เมื่อบริจาคโลหิตกับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย 1 ครั้งขึ้นไป หากเจ็บป่วยต้องนอนโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข จะได้รับความช่วยเหลือส่วนเกินค่าห้องพิเศษและค่าอาหารพิเศษตามสิทธิที่สามารถเบิกได้ บริจาคโลหิต 18 ครั้งขึ้นไป ช่วยเหลือค่าห้องพิเศษและค่าอาหารพิเศษ 50 เปอร์เซ็นต์ บริจาคโลหิต 24 ครั้งขึ้นไป ไม่เสียค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยสามัญในโรงพยาบาลสังกัดสภากาชาดไทย

 

ทริคเตรียมตัวก่อนไปบริจาคโลหิต

  • ไม่ควรกินยาทุกชนิด โดยเฉพาะแอสไพริน (Aspirin)
  • นอนพักผ่อนอย่างน้อย 6 ชั่วโมง
  • ดื่มน้ำเปล่า หรือน้ำผลไม้ ประมาณ 3-4 แก้ว
  • รับประทานอาหารมาก่อนตามมื้อปกติ และเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
  • งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 1 ชั่วโมง
     

 

 

สรุป

หายห่วงได้เลย ถ้าใครเคยคิดว่าบริจาคโลหิตแล้วต้องเสียเลือด อ้วนขึ้น หรือส่งผลเสียต่าง ๆ นานา กลับกันการบริจาคโลหิตมีแต่จะช่วยให้สุขภาพร่างกายทำงานดีขึ้น เพิ่มความอิ่มใจที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น รวมถึงได้ตรวจเช็กสุขภาพอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้พร้อมรับมือกับโรคภัยที่อาจเกิดขึ้นด้วย

 

รู้ทันความเสี่ยงสุขภาพ คุณสามารถเช็กอาการเบื้องต้นด้วยตัวเองได้เลย ที่ Smart Doctor โปรแกรมตรวจอาการเบื้องต้นอัจฉริยะ จาก Doctor at Home

ข้อมูลล่าสุด : 10 ก.ค. 2566