*โรคภูมิแพ้ (allergic disorders) เกิดจากร่างกายมีปฏิกิริยาต่อสารก่อภูมิแพ้ (allergen) แล้วปล่อยสารเคมี เช่น ฮิสตามีน (histamine) ไคเมส (chymase) พรอสตาแกลนดิน (prostaglandin) ไซโตไคน์ (cytokine) ลิวโคทรีน (leukotriene) แบรดิไคนิน (bradykinin) เป็นต้น ออกมา ถ้าสารเหล่านี้มาแสดงปฏิกิริยาที่ผิวหนังก็ทำให้เป็นโรคแพ้ทางผิวหนัง เช่น ลมพิษ ผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้ เป็นต้น ถ้าแสดงออกที่ตาก็กลายเป็นโรคเยื่อตาขาวอักเสบ ถ้าแสดงออกที่จมูกก็กลายเป็นหวัดภูมิแพ้ ถ้าแสดงออกที่หลอดลมก็กลายเป็นหืด
- สังเกตว่าเกิดจากสารก่อภูมิแพ้หรือสิ่งกระตุ้นอะไร แล้วพยายามหลีกเลี่ยง เช่น มีอาการขณะกวาดบ้านหรือถูกฝุ่นก็แสดงว่าเกิดจากฝุ่น ถ้าเป็นขณะอยู่ในห้องนอนก็อาจเกิดจากไรฝุ่นบ้าน ถ้าเป็นขณะสัมผัสสัตว์เลี้ยงก็อาจเกิดจากสัตว์เลี้ยง เป็นต้น วิธีหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ (เช่น ไรฝุ่นบ้าน เชื้อรา สัตว์เลี้ยง ละอองเกสร ดูเพิ่มเติมในโรคหืด หัวข้อ "การป้องกัน ข้อที่ 1 หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารก่อภูมิแพ้และสิ่งระคายเคือง")
- หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และรู้จักผ่อนคลายความเครียด
- ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือตามคำแนะนำของแพทย์
- ใช้ยารักษาตามที่แพทย์แนะนำ เช่น ยาแก้แพ้ ยาแก้คัดจมูก ยาแก้ไอ เป็นต้น
ควรไปพบแพทย์ ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้
- มีอาการมากจนทำให้นอนไม่หลับ หรือมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ มีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน หรือทำให้ผู้ที่เป็นโรคหืดมีอาการหอบหืดกำเริบ
- มีน้ำมูกหรือเสมหะข้นเหลืองหรือเขียว
- ปวดหน่วงตรงหัวคิ้วหรือโหนกแก้ม หรือสงสัยเป็นไซนัสอักเสบแทรกซ้อน
- มีเลือดกำเดาไหล ปวดหู หูอื้อ หรือคลำได้ก้อนที่ข้างคอ
- ใช้ยารักษา 1 สัปดาห์แล้วไม่ดีขึ้น
- หลังกินยา มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ
- มีความวิตกกังวล หรือไม่มั่นใจที่จะดูแลตนเอง
1. หลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้ (ดูเพิ่มเติมในโรคหืด หัวข้อ "การป้องกัน ข้อที่ 1 หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารก่อภูมิแพ้และสิ่งระคายเคือง")
2. รักษาสุขภาพทั่วไปให้แข็งแรง โดยการบำรุงอาหารสุขภาพ (กินผักผลไม้ให้มาก ๆ) ออกกำลังกายเป็นประจำ (เช่น วิ่งเหยาะ เดินเร็ว ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ) นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และผ่อนคลายความเครียด (เช่น ฝึกโยคะ รำมวยจีน สวดมนต์ ฝึกสมาธิ ฟังเพลง) ก็อาจมีส่วนช่วยให้โรคทุเลาได้