เห็บ นอกจากจะเป็นพาหะนำไข้รากสาดใหญ่ชนิด epidemic typhus แล้ว บางชนิดยังมีพิษที่สามารถทำลายระบบประสาทให้กลายเป็นอัมพาตได้อีกด้วย
อาการ
ผู้ป่วยส่วนมากจะมีอาการเฉพาะที่ เป็นตุ่มคันหายได้ภายใน 2-3 วัน แต่อาจทำให้เกาจนเป็นหนองได้ แต่ถ้านำตัวออกไม่หมด ยังมีหัวของมันฝังอยู่ในผิวหนัง ตุ่มนี้อาจโตขึ้น (ทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นก้อนมะเร็งได้) บางครั้งอาจทำให้เกิดอาการอัมพาตคล้ายโปลิโอ เมื่อนำหัวของมันออกก็จะค่อย ๆ หายได้ แต่ถ้าปล่อยจนกล้ามเนื้อหายใจเป็นอัมพาตก็อาจทำให้หยุดหายใจตายได้
การรักษาโดยแพทย์
แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้
1. ให้ดึงเห็บออกพร้อมหัว อย่าให้มีส่วนของหัวค้างอยู่ในผิวหนัง อาจใช้น้ำมันหรือยาหม่องทา หรือใช้บุหรี่ติดไฟลนใกล้ตัวเห็บ จะช่วยให้หลุดออกง่ายขึ้น
2. ถ้าเกาจนเป็นหนอง ให้ยาปฏิชีวนะ เช่น เพนิซิลลินวี ไดคล็อกซาซิลลิน หรืออีริโทรไมซิน
3. ถ้ามีอาการอัมพาต ควรสำรวจว่ามีหัวของเห็บติดอยู่ส่วนไหน แล้วเอาออกหรือผ่าออกเสีย และรีบส่งผู้ป่วยไปโรงพยาบาลทันที
1. ให้ดึงเห็บออกพร้อมหัว อย่าให้มีส่วนของหัวค้างอยู่ในผิวหนัง อาจใช้น้ำมันหรือยาหม่องทา หรือใช้บุหรี่ติดไฟลนใกล้ตัวเห็บ จะช่วยให้หลุดออกง่ายขึ้น
2. ถ้าเกาจนเป็นหนอง ให้ยาปฏิชีวนะ เช่น เพนิซิลลินวี ไดคล็อกซาซิลลิน หรืออีริโทรไมซิน
3. ถ้ามีอาการอัมพาต ควรสำรวจว่ามีหัวของเห็บติดอยู่ส่วนไหน แล้วเอาออกหรือผ่าออกเสีย และรีบส่งผู้ป่วยไปโรงพยาบาลทันที
การดูแลตนเอง
ถ้าเห็นตัวเห็บ ให้ดึงเห็บออกพร้อมหัว อย่าให้มีส่วนของหัวค้างอยู่ในผิวหนัง อาจใช้น้ำมันหรือยาหม่องทา หรือใช้บุหรี่ติดไฟลนใกล้ตัวเห็บ จะช่วยให้หลุดออกง่ายขึ้น
ควรปรึกษาแพทย์ ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้
ควรปรึกษาแพทย์ ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้
- สงสัยว่าดึงตัวเห็บออกไม่หมด
- มีอาการคันมาก หรือเกาจนเป็นหนอง
- มีอาการแขนขาอ่อนแรง