ส่วนใหญ่เกิดจากความผิดปกติของกระจกตาหรือเลนส์ตา ซึ่งเป็นมาแต่กำเนิด และไม่เป็นมากขึ้นตามอายุ
นอกจากนี้อาจเกิดจากแผลเป็นที่กระจกตา การบาดเจ็บที่ตา หรือการผ่าตัดตา ทำให้ความราบเรียบของกระจกตาเปลี่ยนแปลงไป และทำให้มีการหักเหของแสงในแต่ละแนวแตกต่างกันไป
ผู้ป่วยจะมีอาการสายตามัว มองเห็นไม่ชัด หรือมองเห็นภาพซ้อน และอาจมีอาการสายตาสั้น (มองไกลไม่ชัด) หรือสายตายาว (มองใกล้ไม่ชัด) ร่วมด้วย ต้องหยีตา หรือเอียงคอเพื่อให้การเห็นดีขึ้น บางรายอาจต้องเพ่งสายตาจนรู้สึกปวดเมื่อยตา ตาล้า ตาเพลีย หรือปวดศีรษะ
มีปัญหาในการอ่านหนังสือ หรือการมองวัตถุที่อยู่ใกล้ และอาจทำให้มีอาการปวดเมื่อยตาและปวดศีรษะจากการเพ่งมอง
หากเป็นสายตาเอียงเพียงข้างเดียว และปล่อยไว้ไม่รักษา ผู้ป่วยอาจใช้แต่ตาข้างดีข้างเดียว และไม่ใช้ตาข้างที่ผิดปกติ เพื่อให้มองเห็นได้ชัด สายตาข้างที่ผิดปกติจะค่อย ๆ เสื่อมลง จนตาบอดในที่สุด เรียกภาวะนี้ว่า ตาขี้เกียจ (lazy eye หรือ amblyopia)
แพทย์จะวินิจฉัยด้วยการใช้เครื่องตรวจวัดสายตาและการตรวจสุขภาพตาซึ่งมีอยู่หลายวิธีด้วยกัน และอาจวัดสายตาด้วยการทดลองให้มองผ่านเลนส์หลาย ๆ ขนาดเพื่อหาขนาดที่ให้ความคมชัดที่สุด
บางครั้งแพทย์อาจให้ยาหยอดตาขยายรูม่านตา เพื่อเปิดมุมกว้างสำหรับการตรวจภายในลูกตาได้ละเอียด อาจทำให้เห็นแสงจ้า หรือรู้สึกตาพร่ามัวอยู่สักพักใหญ่ และจะหายดีหลังจากยาหมดฤทธิ์
แพทย์จะทำการตรวจวัดสายตา และแก้ไขด้วยการให้ผู้ป่วยใส่แว่นชนิดเลนส์ทรงกระบอกหรือเลนส์สัมผัส (คอนแทคเลนส์) ซึ่งจะช่วยให้มองเห็นได้ชัดขึ้น
บางรายอาจรักษาด้วยการทำเลซิก (LASIK)
หากสงสัย เช่น มีอาการสายตามัว มองเห็นไม่ชัด มีอาการหยีตาหรือคอเอียงเพื่อให้การเห็นดีขึ้น รู้สึกปวดเมื่อยตา ตาล้า หรือตาเพลีย ควรปรึกษาแพทย์
เมื่อตรวจพบว่าเป็นสายตาเอียง ควรดูแลตนเอง ดังนี้
- รักษา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
- ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
- ควรดูแลสุขภาพตา ป้องกันไม่ให้ดวงตาได้รับบาดเจ็บ โดยใส่อุปกรณ์ป้องกันตาเวลาทำกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บของตา (เช่น เล่นกีฬา ตัดหญ้า ทาสี หรือการสัมผัสสารเคมี)
ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้
- สายตามีความผิดปกติมากขึ้น หรือใส่แว่นสายตาแล้วยังมองเห็นไม่ชัด
- มีอาการตาล้า หรือปวดศีรษะบ่อย
- สงสัยมีภาวะแทรกซ้อนหรือความผิดปกติอื่น ๆ เช่น ปวดศีรษะมาก ปวดตามาก ตาพร่ามัว เห็นภาพซ้อน เห็นแสงวาบคล้ายฟ้าแลบหรือแสงแฟลช หรือเห็นจุดดำคล้ายเงาหยากไย่หรือแมลงลอยไปมา เป็นต้น
ยังไม่มีวิธีป้องกันที่ได้ผล เนื่องจากสายตาเอียงส่วนใหญ่เกิดจากความผิดปกติของกระจกตาหรือเลนส์ตามาแต่กำเนิด
เด็กที่มีสายตาผิดปกติ มองภาพไม่ชัด พร่ามัว เวลามองอะไรชอบเอียงคอหรือศีรษะ ปวดเมื่อยตาหรือปวดศีรษะบ่อย ควรพาไปปรึกษาแพทย์ อาจมีสาเหตุจากสายตาผิดปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นสายตาเอียงเพียงข้างเดียว แล้วปล่อยปละละเลย ไม่ได้รับการแก้ไขไปนาน ๆ อาจทำให้สายตาข้างนั้นพิการอย่างถาวรได้