แผลเปื่อยในปากที่เกิดจากการบาดเจ็บ พบได้บ่อยในคนทั่วไป มักไม่มีอันตรายและหายได้เอง
เกิดจากการบาดเจ็บ เช่น ถูกแปรงสีฟันครูดหรือกระแทก ถูกฟันกัด รากฟันปลอมเสียดสี
เกิดเป็นแผลเปื่อยเพียง 1-2 แผลที่ริมฝีปาก ลิ้น หรือเหงือกแผลเปื่อย อาจมีเลือดซึมเล็กน้อย หรือเจ็บปวดเล็กน้อย ซึ่งทุเลาในเวลาไม่นาน แผลมักจะหายได้เองภายใน 1 สัปดาห์
แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกายเป็นหลัก ซึ่งมักตรวจพบแผลเปื่อยที่ริมฝีปาก ลิ้น หรือเหงือก
แพทย์จะแนะนำให้ผู้ป่วยบ้วนปากด้วยน้ำเกลือวันละ 2-3 ครั้ง กินยาแก้ปวดถ้ารู้สึกปวด
ถ้าแผลอักเสบเป็นหนอง ใช้เจนเชียนไวโอเลตป้าย วันละ 2-3 ครั้ง
ถ้าแผลลุกลามหรือไม่หายภายใน 3 สัปดาห์ จะทำการตรวจเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุ
ในรายที่เกิดจากฟันปลอมไม่กระชับ เสียดสีจนเป็นแผลบ่อย จะแนะนำให้ไปพบทันตแพทย์เพื่อแก้ไขฟันปลอมให้กระชับ เพราะหากปล่อยไว้อาจเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งช่องปากได้
ผลการรักษา แผลมักจะหายได้เองภายใน 1 สัปดาห์
- ถ้ามีเลือดออกซิบ ๆ ใช้ผ้าสะอาดกดปากแผลสักพักจนเลือดหยุด
- ถ้าปวดแผลมาก ให้กินยาแก้ปวด-พาราเซตามอล* ถ้าปวดไม่มากไม่ต้องกิน
- บ้วนปากด้วยน้ำเกลือ (โดยผสมเกลือป่น 1/2-1 ช้อนชาที่มีขนาด 5 มล. ในน้ำอุ่น 1 แก้ว หรือประมาณ 250 มล.) วันละ 2-3 ครั้ง
- มีเลือดออกไม่หยุด
- ปวดแผลมาก
- แผลไม่หายใน 1 สัปดาห์ หรือแผลมีขนาดใหญ่ขึ้น
- หลังกินยา มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ
- มีความวิตกกังวลหรือไม่มั่นใจที่จะดูแลตนเอง
*เพื่อความปลอดภัย ควรขอคำแนะนำวิธีและขนาดยาที่ใช้ ผลข้างเคียงของยา และข้อควรระวังในการใช้ยาจากแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาเสมอ โดยเฉพาะการใช้ยาในเด็ก สตรีที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว หรือมีการใช้ยาบางชนิดที่แพทย์สั่งใช้อยู่เป็นประจำ
แผลเปื่อยในช่องปากที่เกิดจากการบาดเจ็บ ส่วนใหญ่เป็นแผลเล็กน้อย และหายได้เอง ภายใน 1 สัปดาห์ โดยไม่ต้องกินยา