ผนังที่กั้นกลางระหว่างรูจมูกทั้ง 2 ข้าง ในคนบางคนอาจมีลักษณะคดงอ ไม่ตรงเหมือนคนปกติทั่วไป อาจเป็นมาแต่กำเนิด หรือเกิดจากได้รับบาดเจ็บในภายหลังได้ โดยทั่วไปมักไม่มีอาการผิดปกติและไม่มีอันตรายร้ายแรงแต่อย่างใด ยกเว้นในรายที่เป็นมาก อาจมีอาการคัดจมูกหรือมีโรคแทรกซ้อนได้
สาเหตุ
เกิดจากความผิดปกติโดยกำเนิด หรือจากการได้รับบาดเจ็บ
อาการ
ถ้าเป็นไม่มาก อาจไม่มีอาการผิดปกติแต่อย่างใด
ในรายที่เป็นมาก อาจมีอาการคัดจมูก แน่นจมูกที่รูจมูก 1-2 ข้าง เนื่องจากรูจมูกตีบแคบกว่าปกติ ทำให้ลมหายใจเข้าออกไม่สะดวก บางรายอาจมีอาการปวดศีรษะหรือใบหน้า นอนหายใจมีเสียงดัง นอนกรน หรือเลือดกำเดาไหล
ภาวะแทรกซ้อน
ในรายที่เป็นมาก อาจทำให้นอนหลับไม่สนิท ปากแห้ง (เนื่องจากหายใจทางปากเวลานอนหลับ) ไซนัสอักเสบ หรือภาวะหยุดหายใจขณะหลับมีอาการกำเริบมากขึ้น
การวินิจฉัย
แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและตรวจพบผนังกั้นจมูกมีลักษณะคดงอ
การรักษาโดยแพทย์
สำหรับในรายที่ไม่มีอาการหรืออาการเพียงเล็กน้อย แพทย์จะให้คำแนะนำ และให้สังเกตอาการโดยไม่ให้การรักษาใด ๆ
ถ้ามีอาการคัดจมูกมาก หรือปวดศีรษะ ให้ยาบรรเทาอาการ (เช่น ยาแก้คัดจมูก ยาแก้ปวด)
ถ้าเป็นมาก (เช่น หายใจไม่สะดวก เป็นไซนัสอักเสบบ่อย) ก็จะรักษาด้วยการผ่าตัด
ผลการรักษา หลังการผ่าตัดแก้ไข ส่วนใหญ่จะหายเป็นปกติ แต่บางรายอาจมีอาการกำเริบใหม่ ก็อาจต้องทำการผ่าตัดแก้ไขให้ใหม่
การดูแลตนเอง
หากมีอาการคัดจมูก แน่นจมูกเรื้อรัง มีเลือดกำเดาไหลบ่อย หรือกินยาแก้หวัดคัดจมูกแล้วไม่ได้ผล ควรปรึกษาแพทย์
ถ้าพบว่าเป็นผนังกั้นจมูกคด ควรดูแลรักษาตามคำแนะนำของแพทย์ และติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีอาการหายใจไม่สะดวก นอนหลับไม่สนิท โรคไซนัสอักเสบหรือภาวะหยุดหายใจขณะหลับมีอาการกำเริบ หรือสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา (เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน เป็นต้น)
การป้องกัน
หากเกิดจากความผิดปกติโดยกำเนิด ไม่มีวิธีป้องกัน
หากเกิดจากการบาดเจ็บ พึงระมัดระวังไม่ให้เกิดการบาดเจ็บที่บริเวณจมูก (เช่น คาดเข็มขัดนิรภัยเวลาขับรถ ใช้อุปกรณ์ป้องกันศีรษะและใบหน้าเวลาเล่นกีฬาที่มีการปะทะ)
ข้อแนะนำ
หากมีอาการเป็นหวัด คัดจมูก แน่นจมูกเรื้อรัง พึงอย่านึกว่าเป็นเพียงอาการเป็นหวัดธรรมดา หากลองกินยาแก้หวัดคัดจมูก 1-2 สัปดาห์แล้วไม่ได้ผล ควรปรึกษาแพทย์ เนื่องเพราะอาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ (ตรวจอาการคัดจมูก/น้ำมูกไหล)
