พบได้บ่อยในผู้ที่มีประวัติชอบกินกุ้งหรือปลาน้ำจืด กบ เขียด ปู งู นก เป็ด ไก่ หนู หรือเนื้อสัตว์ดิบหรือสุก ๆ ดิบ ๆ
ตัวจี๊ด (Gnathostoma spinigerum) โดยปกติพยาธิตัวเต็มวัย (ตัวแก่) จะอาศัยอยู่ในโพรงของก้อนทูมของกระเพาะอาหารของแมวและสุนัข ไข่พยาธิจะออกมาทางรูที่ติดต่อกับกระเพาะอาหาร และออกไปกับมูลของสัตว์เหล่านี้ ไข่จะเจริญและฟักเป็นพยาธิตัวอ่อนระยะที่ 1 ในน้ำ ซึ่งจะถูกกุ้งไร (cyclops) กิน แล้วเจริญต่อไปเป็นตัวอ่อนระยะที่ 2 ในกุ้งไร เมื่อสัตว์น้ำจืด สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์มีปีก หรือหนูกินกุ้งไร ตัวอ่อนของพยาธิก็จะเจริญต่อไปเป็นตัวอ่อนระยะที่ 3 ซึ่งเป็นระยะติดต่อ อาศัยอยู่ในกล้ามเนื้อของสัตว์เหล่านี้ ซึ่งถ้าถูกแมวหรือสุนัขกินเข้าไป ก็จะเจริญเป็นตัวแก่อาศัยอยู่ในก้อนทูมของกระเพาะอาหาร แต่ถ้าคนกินตัวอ่อนระยะที่ 3 ในสัตว์น้ำจืด สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์มีปีกหรือหนู พยาธิตัวอ่อนระยะที่ 3 ก็จะไม่อยู่ที่กระเพาะ แต่จะคืบคลานไปตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ใต้ผิวหนัง ช่องท้อง ปอด ตา หู สมอง ไขสันหลัง เป็นต้น ทำให้เกิดการอักเสบและเสียหายตามอวัยวะต่าง ๆ ได้
ถ้าตัวจี๊ดไชเข้าไขสันหลัง จะมีอาการปวดเสียวมากตามแขนขา แขนขาจะเป็นอัมพาต ปัสสาวะไม่ออก และท้องผูก
ถ้าตัวจี๊ดไชขึ้นสมอง จะมีอาการปวดศีรษะรุนแรง คลื่นไส้ อาเจียน คอแข็ง ซึม หมดสติ อาจถึงเสียชีวิตได้
ถ้าตัวจี๊ดไชเข้าลูกตา อาจทำให้ตาอักเสบ และตาบอดได้
ถ้าไชเข้าหู ทำให้ปวดหูอย่างมาก
ถ้าไชเข้าปอด ทำให้ปอดอักเสบ ปอดทะลุ มีน้ำในโพรงเยื่อหุ้มปอด หรือไอออกเป็นเลือด
ถ้าไชเข้าท้อง ทำให้มีก้อนในท้องเลื่อนที่ได้ อาจเกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรง หรือปวดคล้ายไส้ติ่งอักเสบได้
แต่ถ้าไชเข้าอวัยวะสำคัญ เช่น ตา (ทำให้ตาบอด), ปอด (ทำให้ปอดอักเสบ ปอดทะลุ), ไขสันหลัง (ทำให้เป็นอัมพาต)
ถ้าไชเข้าสมอง อาจรุนแรงถึงเสียชีวิตได้
1. ให้การรักษาตามอาการ เช่น ให้ยาแก้ปวด ยาแก้แพ้ และให้ยาฆ่าพยาธิ-อัลเบนดาโซล
2. ในรายที่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง จะรับตัวไว้รักษาตัวในโรงพยาบาล และให้การแก้ไขตามอาการที่พบ
ถ้าตัวจี๊ดขึ้นมาอยู่ที่ผิวหนัง อาจรักษาด้วยการผ่านำตัวพยาธิออกมา
เมื่อตรวจพบว่าเป็นโรคพยาธิตัวจี๊ด ควรดูแลตนเอง ดังนี้
- รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
- ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้
- ดูแลรักษาแล้วอาการไม่ทุเลาใน 2-3 วัน
- มีอาการไข้สูง หนาวสั่น ปวดหู ปวดตา ตามัว ตาบอด หายใจหอบ ปวดท้องมาก แขนขาชาหรืออ่อนแรง ซึม หรือไม่ค่อยรู้สึกตัว
- ขาดยา ยาหาย หรือกินยาไม่ได้
- ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ
- หลีกเลี่ยงการกินเนื้อสัตว์ดิบหรือสุก ๆ ดิบ ๆ เช่น ก้อย ยำ ส้มฟัก หรือการย่างที่ไม่สุกเต็มที่ โดยเฉพาะที่ทำจากกุ้ง ปลาน้ำจืด กบ เขียด ปู งู นก เป็ด ไก่ หนู เป็นต้น
- ดื่มน้ำสุกหรือน้ำสะอาด เพื่อป้องกันการติดเชื้อพยาธิตัวจี๊ดที่ตกปนอยู่ในน้ำ
- ล้างอุปกรณ์ (เช่น เครื่องบดเนื้อ มีด เขียง) ที่ใช้เตรียมเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ให้สะอาด ป้องกันไม่ให้มีตัวพยาธิเปรอะเปื้อน
- ป้องกันตัวจี๊ดไชเข้ามือด้วยการล้างมือด้วยสบู่หลังเตรียมอาหารเนื้อสัตว์ ถ้าเป็นไปได้ควรใส่ถุงมือเวลาเตรียมอาหารประเภทนี้
ข้อสำคัญควรป้องกันไม่ให้รับอันตรายจากโรคนี้ด้วยการไม่กินเนื้อสัตว์ทุกชนิดแบบดิบ ๆ หรือสุก ๆ ดิบ ๆ